"พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ แตงจั่น" เปิดปมกลับคำให้เรื่องความเร็วรถ "บอส อยู่วิทยา" เหตุถูกกดดัน เล่าทามไลน์เป็นฉากๆ บอกพยายามให้การใหม่ตั้งแต่ ปี 2559 แต่เข้าใจผิดนึกว่าคดีขาดอายุความ พร้อมยอมให้สอบเส้นทางการเงิน เพราะไม่เคยให้ใครมาวิ่งเต้น
ระหว่างการให้ถ้อยคำกับ คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสิระ เจนจาคะ เป็นประธานกรรมาธิการฯ ร่วมกับ คณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎรที่มีนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย เป็นประธานกรรมาธิการ พ.ต.อ. ธนสิทธิ์ แตงจั่น นักวิทยาศาสตร์ สบ.4 กลุ่มงานตรวจเคมีฟิสิกส์ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ตำรวจที่กลับข้อมูลความเร็วรถเฟอร์รารีของ "บอส อยู่วิทยา" ไปมา ได้ชี้แจงถึงปัญหาเรื่องอัตราความเร็วรถของนายวรยุทธ ที่เป็นปัจจัยหลัก ในการสั่งไม่ฟ้องในคดีนี้ โดยสรุปไทม์ไลน์การตรวจความเร็วรถ ดังนี้
- วันที่ 3 ก.ย. 2555 วันเกิดเหตุ ได้ลงพื้นที่ไปตรวจพิสูจน์หลักฐาน และได้ทำรายงานเรื่องความเร็ว ได้ 177 กม./ชม. จากการวัดพื้นที่จริง โดยมี ดร.สธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ จากจุฬาฯ เป็นผู้ควบคุม
- วันที่ 26 ก.ย. 2555 ได้สรุปรายงานพิสูจน์ร่องรอยการเฉี่ยวชน และรายงานต่อผู้บังคับบังบัญชาเพื่อใช้ในสำนวน
- วันที่ 26 ก.พ. 2559 พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี ผกก.(สอบสวน) สน.ทองหล่อ ได้มาที่ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ พบพร้อมกับบุคคล คนหนึ่งแต่ขอไม่เปิดเผยชื่อ นำ ดร.สายประสิทธิ์ มาพบตน ที่ห้องทำงานของผู้บังคับบัญชาของหน่วยงานระดับสูง ซึ่งบุคคลที่ไม่ขอเอ่ยนาม เป็นผู้แนะนำตัว ดร.สายประสิทธิ์ รวมถึงอธิบายเอกสารวิธีการขั้นตอนวิธีการคิดคำนวณความเร็วรถ ที่มีเพียง 10 แผ่น ที่ ดร.สายประสิทธิ์ คำนวณมาแล้ว ได้ความเร็ว 79.22 กม./.ชม. โดยใช้วิธีคำนวณจากเส้นทแยงมุมของรถ ประกอบกับเห็นว่า เมื่อปี 2558 ดร.สายประสิทธิ์ เคยมาคำนวณคดี ของเสี่ยชูวงษ์ มาแล้ว ประกอบกับ 14 ม.ค. 2559 พนักงานอัยการให้สอบสวนเพิ่มเติมในกรณีความเร็ว แต่กำหนดให้ส่งกลับให้อัยการ 12 ก.พ.2559 ซึ่งมีเวลาเพียง 14 วัน ประกอบกับผู้กำกับสอบสวนต้องรีบสอบปากคำ ทำให้นำต้องเอาข้อมูลของ ดร.สายประสิทธิ์ เข้าไปในสำนวน จึงเชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจ เพราะเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีตำแหน่งการันตี
- แต่หลังจากนั้น ได้มีการตรวจสอบความถูกต้องรายงานของ ดร.สายประสิทธิ์ พบว่ามีความผิดพลาดมากถึง 46% ในวันที่ 29 มีนาคม 2559 จึงแจ้งต่อผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง เพื่อข้อให้ปากคำเพิ่มเติม ว่า ไม่ถูกต้อง แต่ พ.ต.อ.วิรดล ผู้กำกับสอบสวน ส่งสำนวนให้อัยการแล้ว หมดหน้าที่ของตำรวจ และแจ้งว่า คดีความเร็วขาดอายุความไปแล้ว ตนจึงมีความเชื่อว่า สอบไปแล้วไม่ได้ประโยชน์ แต่ย้ำว่าได้พยายามถึงที่สุด
พ.ต.อ. ธนสิทธิ์ ยังยืนยัน ว่า ตนไม่เคยให้คำชี้แจงใดๆ ต่อ กมธ.ของ สนช. บอกเพียงว่าจะเรียกมาชี้แจงใหม่ แต่ก็ยังไม่มีการเรียกให้ตนไปชี้แจงใดๆ พร้อมความแสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยยอมให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของตนเองได้
ทั้งนี้มีรายงานว่าบุคคล ที่นำ ดร.สายประสิทธิ์ คำนวณความเร็วในปี 2559 นั้นมีความเกี่ยวข้องในกรรมาธิการ ยุค สนช. ด้วย ซึ่งสื่อมวลชนพยายามแค้นถาม พ.ต.อ.ธนสิทธิ หลังชี้แจงแต่ก็ไม่ยอมเปิดเผย บอกเพียงว่าผู้บังคับบัญชา ไม่อนุญาตให้เปิดเผย