"เสรีพิศุทธ์" ลั่น! ชะลอซื้อเรือดำน้ำไม่พอ ต้องยกเลิกโครงการไปเลย เตือนหากนำเข้าสู่สภาฯอีกจะพาประชาชนถล่มซ้ำ จวกนายกฯใช้ภาษีประชาชนสู้คดีเหมืองอัครา ทั้งที่เป็นความผิดของตัวเองโดยตรง
(1 ก.ย. 2563) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีการชะลอจัดซื้อเรือดำน้ำออกไปอีก 1 ปี ว่า กองทัพและ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แพ้กระแสสังคมและกลัวว่าจะอยู่ไม่ได้ จึงยอมชะลอการจัดซื้อเรือดำน้ำออกไปก่อน แต่การเลื่อนออกไป 1 ปี ไม่ใช่ทางออกเพราะความจริงต้องยุติโครงการไปเลย ต้องไม่มีการซื้อเรือดำน้ำอีกเพราะขณะนี้ประเทศชาติมีหนี้สินมหาศาล และรัฐบาลก็ยังจะกู้เงินอีก ภาษีที่เก็บจากพี่น้องประชาชนไม่พอใช้จ่ายจึงต้องกู้มาใช้จ่าย จะเอาไปซื้อของที่ไม่จำเป็นได้อย่างไร
"ประเทศไทยไม่มีเรือดำน้ำมาตั้งนานแล้ว เพิ่งมาซื้อลำแรกในสมัย พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เห็นมีอะไรและก็อยู่ได้ จึงถือว่าไม่มีความจำเป็นที่จะซื้อต่อไปตราบใดที่หนี้สินของประเทศยังไม่หมด ดังนั้นขอบอกไว้เลยว่า หากมีการนำเรื่องนี้เข้ามาสู่ที่ประชุมสภา อีกก็จะพาพี่น้องประชาชนถล่มอีก"
นอกจากนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังกล่าวถึงการตั้งงบประมาณเพื่อต่อสู้คดีเหมืองทองอัครา ว่า ทหารไม่มีความรู้ โดยเฉพาะความรู้ด้านกฎหมาย แต่ก็อยากเป็นนายกรัฐมนตรี จึงยึดอำนาจเข้ามาและมายึดอำนาจเข้ามาแล้วก็ไม่รู้จึงมีการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ปิดเหมือง ทั้งที่ความจริงเรื่องนี้เมื่อมีชาวบ้านมาร้องก็ควรให้อำนาจกรมอุตสาหกรรมพื้นฐาน กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นผู้ตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไร
ทั้งนี้เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เคยลั่นวาจาไว้แล้วว่าจะรับผิดชอบเรื่องนี้เอง ไม่ใช่แพ้คดีแล้วมาปัดความรับผิดชอบให้เป็นเรื่องของรัฐบาลหรือประชาชน