เจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงไทยของไทย วางกำลังคุมเข้มสกัดโควิดชายแดนเมียนมา และจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองได้อีกหลายจุด
(2 ก.ย. 2563) เจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านความมั่นคงชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ยังคงเพิ่มความถี่ในการออกลาดตระเวนเพื่อป้องกันการลักลอบเข้ามเองโดยผิดกฎหมายของกลุ่มราษฎรและกลุ่มแรงงานชาวเมียนมา ซึ่งยังคงมีความพยายามลักลอบเข้ามายังประเทศไทยเพื่อหางานทำอย่างต่อเนื่อง แต่ทางเจ้าหน้าที่เกรงว่ากลุ่มคนเหล่านี้จะนำพาเชื้อไวรัสโควิด-19 มาแพร่ยังประเทศไทย หลังพบว่าปัจจุบันในประเทศเมียนมามีการตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก
เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นที่จะมีการเข้มงวดการข้ามแดนโดยผิดกฎหมายซึ่งไม่ผ่านการคัดกรองโรคจากเจ้าหน้าที่ โดยเน้นการลาดตระเวนทั้งการเดินเท้าไปตามจุดเสี่ยง ช่องทางธรรมชาติที่ถูกใช้ข้ามพรมแดนและการลาดตะเวนทางเรือในแม่น้ำสายและแม่น้ำรวก ซึ่งเป็นแม่น้ำกั้นพรมแดนที่ถูกคนลักลอบข้ามพรมแดนเป็นประจำ ทั้งนี้ในห้วงระยะ 2 วันนี้่ยังไม่พบผู้ลักลอบข้ามแดนเพิ่มเติม จึงทำให้มียอดผู้ลักลอบข้ามมาจากฝั่งท่าขี้เหล็กไปยัง อ.แม่สาย จ.เชียงราย จำนวน 59 ครั้ง ผู้ต้องหา 153 ราย เป็นชาวเมียนมา 85 ราย ไทย 54 ราย ลาว 12 ราย และจีน 2 ราย
อย่างไรก็ตาม ด้าน อ.แม่ฟ้าหลวง นายณรงค์พล คิดอ่าน นายอำเภอแม่ฟ้าหลวง ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่านปกครองร่วมกับตำรวจ และทหาร ร้อย ม.1 ฉก.ม. 2 กองกำลังผาเมือง ทำการลาดตระเวนเพื่อป้องกันขบวนการลักลอบเข้าเมืองพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ทางด้าน ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ซึ่งมีแนวป่าเขาเป็นเขตแดน จากการตรวจสอบ บ้านพญาไพรเล่าจอ หมู่ที่ 6 ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย พบชายชาวเมียนมา จำนวน 4 คน เมื่อพบเห็นเจ้าหน้าที่ได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในบ้านไม่มีเลขที่เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปควบคุมตัวเอาไว้ได้ จากนั้นได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่ฟ้าหลวง เพื่อผลักดันออกนอกประเทศต่อไป