ภารกิจจับหมีควาย ที่ ต.สีชมพู อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น เข้าสู่วันที่ 9 หลังพบว่า น้องแตงโม หรือเจ้าหมีควาย ตัวนี้ ยังคงหลบซ่อนตัวอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะก็ยังคงปักหลักในพื้นที้ เพื่อเร่งค้นหาเจ้าหมีควายตัวนี้เจอโดยเร็ว
เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ ยังไม่ลดละความพยายาม ในการปฎิบัติภารกิจจับหมีควาย ที่ออกมาทำร้ายชาวบ้าน จนบาดเจ็บ 5 คน ในพื้นที่ ต.บริบูรณ์ อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2563 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตั้งชื่อให้น้องหมีว่า ‘น้องแตงโม’ เพราะมันชอบไปกินแตงโมในไร่ของชาวบ้าน เจ้าหมีควายตัวนี้คาดน้ำหนัก 150 กิโลกรัม มันเดินไปทั่วทั้งไร่อ้อย ไร่มันสำปะหลัง ไม่เว้นป่าชุมชน จนท.ได้ส่งชุดปฏิบัติการ ลงพื้นที่ทุกวัน เพื่อติดตามจับหมีตัวนี้ให้ได้
ซึ่งเมื่อวานที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ใช้วิธีการปูพรมตามพิกัดล่าสุด บริเวณไร่อ้อยที่ที่มีความกว้าง 8 ไร่ แต่ก็ต้องหยุดการค้นหา ช่วงเวลา 5 โมงเย็นของเมื่อวานนี้ เนื่องจากหมีควายตัวนี้ หลุดรอดออกไปจากจุดที่เจ้าหน้าที่ตีวงแคบเข้ามา หลังจากนั้น จึงให้เจ้าหน้าที่ชุดแกะรอย เริ่มแกะรอยทางหลบหนีของหมีควายใหม่
สำหรับช่วงเช้าวันนี้ ภารกิจล่าหมีควายจึงจะต้องเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง โดยเริ่มจากให้เจ้าหน้าที่ชุดแกะรอยเท้า ออกตามหร่องรอย หาเส้นทางการหลบหนีของหมีควาย หากพบพิกัดการหลบซ้อนที่ชัดเจน จึงจะมีการวางแผนทำรั้วตาข่ายมาปิดล้อม พื้นที่ที่หมีควายซ้อนอยู่ และเรียกกำลังพลมาเพิ่มเติม เพื่อเดินกดดันทุกตารางนิ้ว หากพบเจ้าแตงโม จึงจะดำเนินการยิงยาสลบ แต่การยิงยาสลบ จะยิงมั่ว ๆ ไม่ได้เพราะจะโดนอวัยวะสำคัญ จะไม่ปลอดภัยต่อหมีควายตัวนี้
ด้านนายสุเทพ มณีโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ประกาศว่า หากใครที่มีความเชี่ยวชาญ เรื่องการแกะรอยสัตว์ และต้องการมาเป็นส่วนหนึ่งมนการปฎิบัติภารกิจในครั้งนี้ สามารถติดต่อมาที่กรมอุทยาน หรือ ทางจังหวัดได้ โดยให้แจ้งว่า อยากจะเข้ามาช่วยภารกิจตามล่าหมีความ ส่วนชาวบ้านในพื้นที่ หากพบเห็นหมีควายหรือทราบเบาะแสของหมีควายตัวนี้ก็ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ซึ่งคาดว่าหมียังคงอยู่ในพื้นที่ และเชื่อว่าหมีความตัวนี้ น่าจะเป็นหมีเลี้ยงที่หลุดออก ไม่น่าจะใช่หมีควายที่เกิดจากธรรมชาติแน่นอน
ซึ่งทางรองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ยืนยันว่า ภารกิจการไล่ล่าหมีควายตัวนี้ จะยังไม่ยุติ เพราะหมีควายเป็นสัตว์ป่าที่ดุร้าย และอาจจะทำร้ายชาวบ้านได้ตลอดเวลา การค้นหาจึงจะยังดำเนินต่อไป จนกว่าจะพบข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่ผลักดันหมีความตัวนี้เข้าสู่ป่า ที่เป็นพื้นที่ธรรมชาติของหมี
ขณะนี้ เจ้าหน้าที้ส่งกำลังเข้าไปเดินเท้าลาดตระเวน แกะรอย ทั้งหมด 40 นาย ส่วนเจ้าหน้ามี่จากหน่วยกูภัยเมตตาธรรม อยู่ระหว่างการ รวบรวมพรานป่า ที่จะมาปฏิบัติภารกิจครั้งนี้