ประมวลเหตุการณ์ มวลชนปักหลักชุมนุมที่แยกปทุมวัน ก่อนตำรวจควบคุมฝูงชนสลายการชุมนุม
(16 ต.ค. 2563) ภายหลังแกนนำคณะราษฎรสับขาหลอกเปลี่ยนสถานที่ชุมนุมจากแยกราชประสงค์ ไปรวมตัวกันที่แยกปทุมวัน เมื่อเวลา 17.00 น. จนถึงช่วงค่ำตำรวจได้เข้ากระชับพื้นที่สลายการชุมนุมและมีการปะทะกันหลายครั้ง จนทำให้แกนนำประกาศยุติการชุมนุม
โดยตำรวจควบคุมฝูงชนพร้อมโล่และรถฉีดน้ำแรงดันสูงเข้ากระชับพื้นที่ชุมนุมกลุ่มคณะราษฎรที่แยกปทุมวัน ในขณะที่มีฝนตกลงโปรยปรายลงมา เจ้าหน้าที่ตั้งแถวจากด้านหน้าสยามเซ็นเตอร์เปิดฉากฉีดน้ำผสมสารเคมีฉีดใส่ผู้ชุมนุมที่กางร่มป้องกัน พร้อมชู 3 นิ้วร้องเพลงชาติไทย และตะโกนต่อว่าตำรวจ ที่เคาะโล่เดินเท้าเข้าเคลียร์พื้นที่ต่อเนื่อง กระทั่งตำรวจยึดแยกปทุมวันไว้ได้
ขณะที่ผู้ชุมนุมบางส่วนโดนน้ำสีฟ้าแล้วมีอาการแสบคันผิวหนัง หายใจไม่ออก และได้กลิ่นแก๊ส จนต้องนำน้ำสะอาดมาล้างหน้า และถอยร่นไปเรื่อย ๆ กระทั่งแกนนำแจ้งให้ผู้ชุมนุมไปตั้งหลักที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนประกาศยุติการชุมนุมในช่วง 20.00 น. และจะนัดชุมนุมใหม่ในวันพรุ่งนี้
อย่างไรก็ตาม มีผู้ชุมนุมบางส่วนตกค้างอยู่ในพื้นที่รวมทั้งนักเรียน นักศึกษา ได้รวมตัวกันตะโกนต่อว่าตำรวจและขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยขว้างปาสิ่งของใส่ตำรวจและมีเหตุกระทบกระทั่งต่อเนื่อง
ทั้งนี้ การสลายการชุมนุมครั้งนี้มี พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) บัญชาการด้วยตัวเอง ขณะที่มีตำรวจหลายนายที่เข้าสลายการชุมนุม โดนแผงเหล็กได้รับบาดเจ็บถูกส่งตัวมารักษาที่ห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลตำรวจ
ต่อมา พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวยืนยันว่า การฉีดน้ำสลายผู้ชุมนุมเป็นไปตามขั้นตอนจากเบาไปหาหนัก ตำรวจไม่ได้พกอาวุธ มีเพียงกระบองและโล่ ส่วนน้ำสีฟ้าที่เห็นเป็นสารที่ใช้ควบคุมฝูงชนตามปกติ ไม่ใช่แก๊สน้ำตา
ขณะที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะก้าวหน้า โพสต์ทวิตเตอร์ว่า หยุดใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม ที่ผ่านมาหลายเดือนยังไม่มีความสูญเสีย ความรุนแรงไม่ช่วยแก้ปัญหาชนชั้นนำไม่เคยเรียนรู้จากประวัติศาสตร์บ้างเลยหรือ ฟังพวกเขาปรับตัวและหาทางออกร่วมกัน ก่อนจะสายเกินไป