หลังจากที่เมื่อคืนนี้ มีการคุมตัวผู้ชุมนุมและแกนนำมาที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาคที่ 1 จำนวนทั้งหมดรวม 12 คน โดยมีแกนนำ และผู้ชุมนุม 11 คน และผู้สื่อข่าว 1 คน

บรรยากาศที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาคที่ 1 ภายหลังจากที่หลังจากที่เมื่อคืนนี้ มีการคุมตัวผู้ชุมนุมและแกนนำมาที่นี่ ซึ่งได้รับการยืนยันว่ามีจำนวนทั้งหมด รวม 12 คน โดยมีแกนนำ และผู้ชุมนุม 11 คน และผู้สื่อข่าว 1 คน

ตั้งแต่เมื่อคืน มีครอบครัวและเพื่อนๆของผู้ชุมนุม ที่ถูกจับกุม เดินทางมาเฝ้ารอ เพื่อจะขอเข้าเยี่ยม แต่ทางตำรวจ อนุญาตให้เพียงแค่ทนายความเข้าไปเท่านั้น ส่วนผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องรวมถึงญาติให้รอด้านนอก โดยจะเปิดให้เข้าเยี่ยมตามช่วงเวลาที่กำหนด

โดยในส่วนของแกนนำที่ถูกจับกุมในครั้งนี้ จากการชุมนุมบริเวณแยกปทุมวัน คือ นาย ชินวัตร จันทร์กระจ่าง แกนนำกลุ่มนนทบุรีปลดแอก นายอนุรักษ์ เจนตวณิชย์

ยังมีในส่วนของแกนนำ ที่ถูกตำรวจเข้าไปควบคุมตัวจากที่บ้านเมื่อคืนนี้เช่นกัน คือ 'ฟอร์ด' ทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี ตามหมายจับ คดีการชุมนุมราชประสงค์เมื่อ 15 ต.ค. โดยจับกุมข้อหาเดียวกันฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

โดยในการสอบปากคำด้านใน มีทนายความ จากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เข้าไปร่วมรับฟัง ส่วนผู้สื่อข่าว 1 คนที่ถูกจับกุม ไปพร้อมกับผู้ชม ได้รับการปล่อยตัวแล้วประมาณช่วงตี 2 ตำรวจตั้งข้อหาฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน ม.368 ถูกปรับ 300 บาท เนื่องจากถูกจับขณะไลฟ์สดสถานการณ์ ช่วงที่มีการประกาศให้ผู้ชุมนุมและสื่อมวลชนออกจากพื้นที่

โดยเมื่อเวลาประมาณ 7 นาฬิกาที่ผ่านมา ตำรวจ สนลุมพินี ได้นำรถควบคุมผู้ต้องขัง นำตัวผู้ชุมนุมจำนวน 8 คน ไปขออำนาจศาลแขวงปทุมวัน ฝากขังผัดแรก ซึ่งระหว่างที่ถูกนำตัวออกจาก ตชด ภาค 1 ทันทีที่ผู้ชุมนุมที่อยู่บนรถ เห็นครอบครัวและเพื่อนๆ มารออยู่ ได้มีการเปิดกระจกออกมาพูดคุย บางคนร้องไห้ออกมา และยังคงเรียกร้องให้ผุ้ชุมนุมอย่ายอมแพ้

ขณะที่ในส่วนของ นางสาวพูนสุข พูนสุขเจริญ ทนายความศูนย์สิทธิมนุษยชน ที่ได้เข้าไปพบกับผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุม ได้เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ทั้ง 11 คน เซ็นรับทราบข้อกล่าวหา ฝ่าฝืน พรก ฉุกเฉิน ซึ่งช่วงเช้าวันนี้ ตำรวจจะนำตัวทั้งหมดไปฝากขังที่ศาลแขวงปทุมวัน

โดยจะมีการจัดทีมทนายไปรอยื่นเรื่องขอประกันตัวในชั้นศาล ส่วนตัวคาดว่าน่าจะได้รับการประกันตัวทั้งหมด เพราะทั้ง 11 คน ถูกแจ้งข้อกล่าวหาเดียวกันกับกลุ่มผู้ชุมนุม 6 คน ที่ถูกจับกุมที่แยกราชประสงค์ ซึ่งได้รับการประกันตัวไปก่อนหน้านี้ จึงคาดว่า ศาลจะใช้ดุลยพินิจเดียวกัน