"ไทยภักดี" แถลงค้านเปิดสภาแก้ปัญหาม็อบ แนะรัฐอย่าหลงกลนักการเมือง พร้อมเสนอตั้งศูนย์แถลงข่าวสู้เฟคนิวส์
(20 ต.ค. 2563) กลุ่มไทยภักดี นำโดย นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกันอ่านแถลงการณ์คัดค้านการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ ที่มีพรรคการเมืองเรียกร้องเพื่อพิจารณาปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า "เนื่องจากพบว่าการชุมนุมครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ และไม่ได้พุ่งเป้าไปที่การเรียกร้องทางการเมืองแต่กลับพุ่งเป้าไปที่สถาบันฯ เห็นได้จากการขัดขวางขบวนเสด็จพระราชดำเนิน ซึ่งมีการแสดงสัญลักษณ์หยาบคาย ถือว่าเป็นการระทำที่รุนแรง ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ชาติไทย"
นพ.วรงค์ ยังกล่าวอีกว่า เมื่อรัฐบาลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและได้ดำเนินการสลายการชุมนุมตามหลักสากลกลับได้รับการชี้นำว่าเป็นการกระทำที่รุนแรง จากทั้งนักการมืองฝ่ายค้าน นักวิชาการชังเจ้าและศิลปินส้ม ทำให้นักเมืองจำนวนหนึ่งที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวได้หยิบฉวยสถานการณ์ดังกล่าว เรียกร้องให้เปิดประชุมรัฐสภาแก้ปัญหาแต่ในความจริงต้องการใช้รัฐสภาเป็นพื้นที่ขยายความขัดแยังเพื่อรองรับความชอบธรรมของผู้ชุมนุมยิ่งทำให้สถานการร์รุนแรงมากขึ้นผ่านเวทีรัฐสภา
นอกจากนี้ยังเร่งให้มีการแก้ไขรัฐธรมนูญทั้งฉบับเพื่อเอาใจผู้ชุมนุมและแฝงด้วยประโยชน์ของพรรคการเมือง และนักการเมือง บางกลุ่ม กลุ่มไทยภักดีจึงขอเชิญชวนประชาชนคนไทยร่วมกันคัดค้านการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญดังกล่าว
ส่วนตัวมองว่าการเปิดสภาตอนนี้ยิ่งทำให้การเมืองร้อนขึ้น เพราะปัญหาการชุมนุมครั้งนี้ไม่ใช่ปัญหาปกติ แบบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ต้องใช้สภาหาทางออก หากรัฐบาลเดินหน้าเปิดสภา ถือว่ากำลังประเมินสถานการณ์ผิด เพราะจะมีการใช้เวทีสภาจาบจ้วงสถาบันฯโดยอ้างคำสวยหรูว่าปฏิรูปสถาบันฯแต่ความจริงต้องการล้มล้าง โดยเฉพาะการเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก ที่จะกระทบต่อความมั่นคงของสถาบันฯในขณะนี้
พร้อมเสนอให้รัฐบาลตั้งศูนย์แถลงข่าวต่อสู้กับสงครามข้อมูลข่าวปลอมที่เกิดขึ้นในการชุมนุมและโซเชียลมีเดีย โดยทีมผู้เชี่ยวชาญแบบศูนย์โควิด-19 เพราะสถานการณ์ขณะนี้มีแต่เฟคนิวส์หากรัฐบาลนำความจริงเข้าไปสู้จะทำให้ได้ใจประชาชนมากขึ้น เพราะรัฐบาลมีเครื่องมือเยอะมากแต่กลับไม่ทำ แต่ทั้งนี้จะต้องไม่ปิดกั้นการชุมนุม เปิดโอกาสให้มีการชุมนุมอย่างเต็มที่ และใช้วิธีส่งคนไปเก็บข้อมูลเพื่อมาดำเนินคดีกับผู้ปล่อยข่าวปลอม เพราะต้องยอมรับว่าผู้ชุมนุมยึดพื้นที่สื่อโซเชียลมีเดียถึง 80%
นพ.วรงค์ กล่าวอีกว่า จากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ยังไม่จำเป็นต้องฟื้นคืนกลุ่ม กปปส. กลับมาต่อสู้ เพราะจะเข้าทางผู้ชุมนุมและจะเกิดภาพความรุนแรงในการปะทะกัน ทางทีดีที่สุดคือการต่อสู้ด้วยข้อมูล ต่อสู้ด้วยความจริง ทั้งนี้การเปิดสภาที่เกิดมีขึ้นหากไม่สามารถหยุดยั้งได้ ก็ฝากเตือนไปยัง ส.ส. ฝ่ายรัฐบาลให้ทำการบ้านเตรียมข้อมูลต้องรู้ทันว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร
ด้านโฆษกกลุ่มไทยภักดี นายบุญเกื้อ ปุสสเทโว กล่าวว่า ในวันนี้พรุ่งนี้เวลา 11.00 น. ทีมทนายของกลุ่มจะเดินทางไป ปอท. เพื่อแจ้งความเอาผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ต่อรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายพิชัย นริพทะพันธุ์ กรณีโพสต์ภาพและข้อมูลบิดเบือน เป็นการนำภาพการสลายการชุมนุมที่ประเทศฮ่องกง มาบิดเบือนว่าเกิดที่ประเทศไทยในวันสลายการชุมนุมบริเวณแยกปทุมวัน เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ที่ผ่านมา