ตร. เตรียมชี้แจงปมใช้สารเคมีผสมน้ำฉีดม็อบ ยัน ทำตามขั้นตอน และไม่ปิดกั้นหากมีการฟ้องร้อง
(22 พ.ย. 2563) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษก ตร. แถลงแนวทางการดูแลและการจัดจราจรกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมที่นัดรวมตัวทำกิจกรรมนิทรรศการเฟสติวัลรวมพลังประชาธิปไตย บริเวณถนนอักษะ ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ตั้งแต่เวลา 15.00น. เป็นต้นไป
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า วันนี้มีแจ้งการชุมนุม 2 กลุ่ม คือ 1.ภาคีนักศึกษาศาลายา แจ้งการชุมนุมกับ สน.ธรรมศาลา เพื่อจัดการชุมนุมที่ถนนอักษะถึงถนนอุทยานซอย 13 เริ่มตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป โดยตำรวจกำหนดเงื่อนไขการชุมนุมดังนี้คือ
1.ให้ควบคุมผู้ชุมนุมให้อยู่ในพื้นที่แจ้งชุมนุมเท่านั้น
2.ห้ามเคลื่อนย้ายพื้นที่ชุมนุมเด็ดขาด
3.ห้ามใช้ป้ายข้อความดูหมิ่นปลุกระดมยุยง
4.ห้ามเคลื่อนย้ายผู้ชุมนุมไปจุดอื่นที่ไม่ได้แจ้งไว้
5.ห้ามใช้เครื่องเสียงตามที่กฎหมายกำหนดค่าสูงสุด 115 เดซิเบล และค่าเฉลี่ยตลอดการชุมนุมไม่เกิน 70 เดซิเบล
และ 6.ให้ชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ ไม่กระทบต่อความเรียบร้อยของบ้านเมืองและศีลธรรมอันดีของประชาชน
ทั้งนี้ การชุมนุมที่ถนนอักษะห้ามชุมนุมในระยะ 150 เมตรจากเขตพระราชฐานเด็ดขาด
กลุ่มต่อมา คือ กลุ่มเลือกข้างประชาธิปไตย แจ้งการชุมนุมกับ สน.พระราชวัง ตั้งแต่เวลา 12.00-19.00 น. โดยพบปะพูดคุยการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องชาวบ้าน ที่หน้าร้านแม็คโดนัลด์ ก่อนเดินไปแยกคอกวัว โดยกำหนดเงื่อนไขดังนี้คือ ให้อยู่บนทางเท้าร้านแม็คและเดินไปแยกคอกวัวบนทางเท้าโดยไม่ให้ลงผิวจราจรเด็ดขาด นอกนั้นเงื่อนไขเดียวกับกลุ่มแรก
พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า การชุมนุมที่ถนนอักษะ ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าวตั้งแต่เวลา 14.00น. เส้นทางที่จะได้รับผลกระทบคือ แยกถนนอักษะตัดถนนพุทธมณฑลสาย 4 แยกถนนอักษะตัดถนนเลียบคลองทวีวัฒนา และถนนเลียบคลองทวีฯ ไปจนถึงแยกบรมราชชนนี จึงขอให้ใช้ถนน พุทธมณฑลสาย 3, 4, 5 และถนนบรมราชชนี ส่วนแยกตัดถนนอักษะกับเพชรเกษมยังคงใช้ได้ตามปกติ
อีกจุดที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย คาดการณ์ว่า การเดินเท้าไปแยกคอกวัวอาจเกิดผลกระทบด้านจราจร ฉะนั้นขอให้เลี่ยงไปใช้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า หรือไปตามถนนเจ้าฟ้าทางขวา และถนนอัษฎางค์ทางซ้าย
ต่อมาในช่วงตอบคำถาม พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า สำหรับการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎรที่แยกวังแดง สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ ได้ประชุมเตรียมการเรียบร้อยแล้วแต่ยังไม่สามารถระบุรายละเอียดได้ ทั้งนี้ตำรวจยังไม่ขอศาลเพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราวต่อแกนนำผู้ชุมนุมบางส่วน
ส่วนการแจ้งข้อหาผิด ม.112 ยังต้องดูตามพฤติการณ์และบริบทของผู้ชุมนุมหากเข้าข่ายก็ต้องแจ้งข้อกล่าวหาตามนั้น ยืนยันว่าตำรวจต้องให้ความเป็นธรรม และการแจ้งข้อกล่าวหานี้จะต้องพิจารณาระดับกองบัญชาการเท่านั้น ส่วนการเตรียมออกหมายเรียกผู้ชุมนุมที่รัฐสภา แยกเกียกกาย และหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น สน.บางโพ สน.เตาปูน และ สน.ปทุมวัน กำลังพิสูจน์ทราบตัวบุคคล จะมีคนผิดมากกว่า 30 รายหรือไม่ ตัวเลขไม่สำคัญ สำคัญที่คนกระทำผิด เชื่อว่าจะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า เบื้องต้นความผิดแบ่งเป็นหลายส่วน สำหรับผู้ชุมนุมเข้าข่ายผิดฐานจัดการชุมนุมโดยมิชอบ บางส่วนสมคบกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปก่อความไม่สงบเรียบร้อย ส่วนที่ปราศรัยที่พาดพิงผิดฐานหมิ่นประมาท อีกส่วนที่ทำลายสิ่งของและกล้องวงจรปิด ฐานทำให้เกิดความเสียหายซึ่งทรัพย์สินเอกชน ทรัพย์สินราชการ และทรัพย์สินสาธารณะ
เมื่อถามความคืบหน้าการที่มีชายเสื้อกันฝนสีชมพูรายหนึ่งออกมาแสดงตัวว่าไม่ใช่คนที่ทำท่าเล็งปืนตามในข่าว พล.ต.ต.ปิยะ ตอบว่า หากมั่นในว่าตัวเองไม่ใช่คนผิด ก็ให้ไปพบตำรวจ สน.เตาปูน เพื่อเป็นพยานในคดี เพราะในม็อบมีคนชุดชมพูเยอะ จึงต้องพิสูจน์ทราบว่าเป็นคนเดียวกันจริงหรือไม่ เรื่องการตามตัวตอนนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว อีกทั้ง พฐ.ยังตรวจพบปลอกกระสุนในที่เกิดเหตุหลายชนิด จุดแรกตรงรถบัส ตชด. ใกล้แยกเกียกกาย อีกจุดที่พบมากอยู่เลยทางเข้าวัดใหม่ทองเสน ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่เกิน 400 เมตร
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า แม้แจ้งการชุมนุมแล้วแต่หากมีการกระทำใดเข้าข่ายความผิดอื่น ๆ ตำรวจยังคงต้องพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายเช่นทุกครั้ง จึงขอให้ผู้ชุมนุมปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีมีแกนนำผู้ชุมนุมแจ้งว่าถูกเจ้าหน้าที่ติดเครื่องจีพีเอสไว้ใต้ท้องรถนั้นยังไม่ได้รับรายงาน เพราะรถส่วนใหญ่ก็ติดอยู่แล้ว ตำรวจไม่จำเป็นต้องตามขนาดนั้น เรามีวิธีการอยู่แล้ว
สำหรับสารเคมีในการฉีดน้ำนั้น สัปดาห์หน้าจะมีการชี้แจงจากผู้จัดซื้อจัดหาและผู้เชี่ยวชาญ ยืนยันว่าขั้นตอนทั้งหมดมีวัตถุประสงค์เพื่อระงับยับยั้งไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้าเขตแนวที่ห้ามไว้ แต่ยอมรับว่าสารเคมีนั้นมีผลกระทบแน่นอน แต่จะเป็นผลข้างเคียงอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับบุคคล สำหรับอาการบาดเจ็บก็ต้องไปดูในส่วนที่เกี่ยวข้องว่าจะรับผิดชอบอย่างไร หากผู้ชุมนุมจะฟ้องร้องเราก็ไม่ตัดสิทธิ์ เพราะที่ผ่านมายังมีการฟ้องร้องในส่วนอื่น ๆ ด้วย อีกทั้งก่อนการใช้ก็ฝึกซ้อมจนชำนาญ ตำรวจทำตามขั้นตอนแน่นอน