จ.เชียงราย ปล่อยตัวกลุ่มเสี่ยงโควิด-19 หลังกักตัวครบกำหนด เตรียมประกาศเป็นพื้นที่ปลอดเชื้อ
(16 ธ.ค. 2563) ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้ประชุมร่วมหัวหน้าส่วนราชการและคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงราย เพื่อกำหนดทิศทางการปฎิบัติงานและวางมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพ่รระบาดของไวรัสโควิด-19
ซึ่งพบว่าปัจจุบัน จ.เชียงราย ยังคงมีผู้ติดเชื้อสะสมคงที่อยู่ที่ 55 ราย รักษาหายแล้ว 20 ราย มีการสุ่มตรวจด้วยรถชีวนิรภัยพระราชทาน โดยภาครัฐและภาคเอกชนรวม 26,360 ราย และมีการนำกลุ่มเสี่ยงและผู้เดินทางกลับจากประเทศเพื่อนบ้านไว้ในสถานที่กักกันของรัฐจำนวน 248 ราย ซึ่งในวันนี้ยังไม่พบมีผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมและยังไม่พบผู้มีเสียชีวิตการแพ่รระบาดของโรค
โดยนายประจญ กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ติดเชื้อแม้จะมีอยู่ถึง 55 คน แต่ล้วนมาจากประเทศเพื่อนบ้านที่ผ่านเข้ามาตามช่องทางปกติและได้รับการดูแลจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในระบบเต็ม 100% ส่วนผู้ป่วยที่ตรวจพบก็รักษาจนหายกลับบ้านได้แล้วกว่า 20 คน สถานการณ์จึงรับมือได้ง่ายกว่าการพบการติดเชื้อภายในประเทศครั้งแรก เพราะต่อไปนี้คือการรองรับผู้ที่มาจากต่างประเทศ ลักษณะเป็นสถานที่กักดูอาการหรือ State Quarantine เหมือนท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ดังนั้นจึงหมายถึงว่าใน จ.เชียงราย ไม่มีการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้วหรือแม้แต่ผู้ที่ตรวจพบว่าติดเชื้อส่วนใหญ่ใน State Quarantine ก็ไม่ใช่คนเชียงรายแต่มาจากจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ ส่วนตามแนวชายแดนและช่องทางธรรมชาติทางเจ้าหน้าที่ทหารได้เสริมกำลังเข้าไปเป็นจำนวนมาก พื้นที่ชั้นในก็มีตำรวจและฝ่ายปกครองดูแลอย่างเข้มงวด3
ด้วยเหตุนี้ภายในอีก 1-2 วัน ทางกรมควบคุมโรคก็เตรียมจะประกาศให้ จ.เชียงราย ปลอดภัยจากไวรัสโควิด-19 แล้ว เนื่องจากตรวจไม่พบผู้ติดเชื้อภายในนาน 7-14 วัน และในวันพรุ่งนี้ (17 ธ.ค.) ก็จะมีการปล่อยผู้ถูกกันกันกลับบ้านได้ในล็อตใหญ่อีกกว่า 20 คน เนื่องจากมีการตรวจเช็คแล้วจนแน่ใจว่าไม่พบมีการติดเชื้อก็จะให้กลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้
ซึ่งมาถึงตอนนี้ตนยืนยันว่า เชียงรายมีความปลอดภัยและปลอดเชื้อ สามารถมาท่องเที่ยวได้ และสามารถจัดกิจกรรมต่าง ๆ ได้ไม่ว่าจะเป็นงานมหกรรมไม้ดอกอาเซียนของ อบจ.เชียงราย งานเทศกาลดอกไม้งาม ของเทศบาลนครเชียงราย งานสีสันดอยตุง งานแสงสีเสียงไร่สิงห์ปาร์ค หรืองานเคาท์ดาวน์ ซึ่งมีแจ้งเข้ามาแล้วว่าจะจัดในหลายพื้นที่ เพียงแต่การจัดงานจะต้องอยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ควบคุมโรค 6 มาตรการ เพื่อเป็นการป้องกันไว้เท่านั้น