"ณัฏฐพล" เตรียมเสนอนายกฯ พิจารณาแผนยกระดับโรงเรียนคุณภาพชุมชน ให้โรงเรียนมีคุณภาพเท่ากันทั้งประเทศ คาดใช้เวลาไม่เกิน 3 ปี

นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมความก้าวหน้าการพัฒนาโรงเรียนคุณภาพชุมชน และการประชุมคณะกรรมการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ว่าการประชุมทั้งสองคณะ เป็นการหารือถึงเรื่องการติดตามแผนยกระดับโรงเรียนคุณภาพชุมชน ซึ่งจะแตกต่างจากโครงการในอดีต เช่น โครงการโรงเรียนคุณภาพประจำตำบล หรือ อำเภอ แต่โครงการเหล่านี้ยังมีการขับเคลื่อนอยู่ เพียงแต่ในปัจจุบัน มีความจำเป็นต้องนำบริบทของแต่ละจังหวัดมาศึกษา  เพื่อทำให้การยกระดับคุณภาพชีวิตและรายได้ของแต่ละจังหวัดผ่านระบบการศึกษาจะขับเคลื่อนไปในทิศทางใด  

และขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการได้จัดทำโมเดลของจังหวัดภูเก็ตและมีการลงรายละเอียดการขับเคลื่อนงานในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นปัญหาพื้นฐาน  ที่เกี่ยวข้องกับหลาย ๆ เรื่องภายในกระทรวงศึกษาธิการ เช่นเรื่องที่ กระทรวงศึกษาธิการมีโรงเรียนจำนวนมาก แต่คุณภาพไม่เท่าเทียมกัน จึงเป็นปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ทั้งนี้ตนยืนยันว่าหากมีความเข้าใจที่ตรงกันและร่วมกันในทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา เรื่องนี้จะสามารถขับเคลื่อนไปได้อย่างแน่นอน และยังเป็นการยกระดับคุณภาพการศึกษาได้อย่างแท้จริง

นอกจากนี้ นายณัฏฐพล ยังเปิดเผยว่า ได้รับฟังข้อกังวลเกี่ยวกับปัญหาในการดำเนินการทั้งเรืองกฎหมาย และการประสานงานในแต่ละพื้นที่ ซึ่งได้มอบนโยบายให้ทุกฝ่ายเกี่ยวข้องต้องฟันฝ่าไปให้ได้ ผู้ตรวจราชการที่เข้าปฏิบัติหน้าที่ในช่วงที่ผ่าน จะเป็นกลไกสำคัญร่วมกับผู้บริหารของกระทรวงศึกษาธิการในการขับเคลื่อนโครงการนี้ให้เกิดขึ้น เพราะเรื่องนี้ตนถือเป็นประเด็นสำคัญที่จะต้องตกผลึกให้ได้ ก่อนที่จะนำเสนอคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี และการจัดทำงบประมาณ ปี 2565-2567

ทั้งนี้นายณัฏฐพล เชื่อว่าจะใช้ระยะประมาณเวลา 3 ปี ในการดำเนินการ แต่หากได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็อาจจะใช้ระยะเวลาสั้นลงได้ แต่เนื่องจากครั้งนี้ ถือเป็นการปรับองคาพยพของกระทรวงศึกษาธิการครั้งใหญ่ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องดูบุคลากร หรือ หน่วยงานที่จะเข้ามาช่วยเสริมด้วย ว่ามีเพียงพอหรือไม่และเข้าใจเรื่องการศึกษาทิศทางเดียวกับกระทรวงหรือไม่

ซึ่งตนเชื่อว่าเรื่องนี้จะทำให้การจัดสรรงบประมาณและการใช้งบประมาณในแต่ละปี มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและที่สำคัญ คือ ผลพวกจากงบฯ ที่รัฐบาลจัดสรรให้จะไปถึงตัวนักเรียนในเรื่องคุณภาพการศึกษาโดยตรง ทั้งอุปกรณ์ในห้องปฏิบัติการหรือ การเสริมทักษะอาชีพที่ตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ และโมเดลนี้จะสามารถเห็นถึงภาพการลงทุน และผลตอบแทนในการลงทุน ว่าในอนาคตภาครัฐจะสามารถประหยัดงบประมาณไปได้มากน้อยเพียงใด เช่น แผนเรื่องสวัสดิการอาหารกลางวัน หากมีการลดจำนวนโรงเรียนลงก็จะสามารถทำให้ลดการใช้งบประมาณได้พอสมควร อีกทั้งประสิทธิภาพในการจัดทำอาหารก็จะมีความคล่องตัวมากขึ้น หรือ เงินอุดหนุนรายหัวที่ปัจจุบันมีการกระจายอยู่ ก็จะสามารถรวมเป็นกลุ่มและส่งผลให้การบริหารจัดการทำได้ง่ายขึ้น เป็นต้น