ปภ.เร่งช่วยเหลือพื้นที่น้ำท่วมภาคใต้ พบยังมีน้ำขัง 4 จังหวัด คือ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และวาตภัย ในพื้นที่ภาคใต้ 11 จังหวัด 101 อำเภอ 584 ตำบล 4,220 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 691,659 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 30 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมขังใน 4 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา ระดับน้ำลดลงทุกจังหวัด
ทั้งนี้ ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยและคลี่คลายสถานการณ์ โดยเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมและสำรวจความเสียหายครอบคลุมทุกด้าน เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ
โดยจังหวัดที่ยังมีน้ำท่วมขัง ประกอบด้วย
1. สุราษฎร์ธานี น้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบ้านนาเดิม และอำเภอพุนพิน รวม 4 ตำบล 9 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 275 ครัวเรือน
2. นครศรีธรรมราช น้ำท่วมขังในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอพระพรหม อำเภอเชียรใหญ่ อำเภอชะอวด อำเภอเฉลิมพระเกียรติ และอำเภอปากพนัง รวม 31 ตำบล 169 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 21,656 ครัวเรือน
3. พัทลุง น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอควนขนุน รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 30 ครัวเรือน
4. สงขลา น้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสิงหนคร อำเภอระโนด และอำเภอสทิงพระ รวม 10 ตำบล 30 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 257 ครัวเรือน
ภาพรวมสถานการณ์น้ำท่วมระดับน้ำลดลงทุกจังหวัด
ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกับศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ทั้งที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัย พื้นที่ใกล้เคียง พื้นที่อื่น ๆ
รวมทั้งสนับสนุนการเผชิญเหตุ โดยระดมกำลังพลและทรัพยากรด้านสาธารณภัย อาทิ เรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ เรือไฟเบอร์ รถสูบส่งน้ำระยะไกล รถผลิตน้ำดื่ม รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถสุขาเคลื่อนที่ รถประกอบอาหาร รถไฟฟ้าส่องสว่าง
นอกจากนี้ ยังเดินหน้าในการช่วยเหลือดูแลด้านการดำรงชีพเบื้องต้นแก่ประชาชนที่ยังคงได้รับผลกระทบจากอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ สำหรับในส่วนของผู้เสียชีวิต จังหวัดได้ให้การช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตตามระเบียบแล้ว ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง ประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป