"สิงคโปร์โมเดล" ควบคุมการระบาดไวรัสโควิด-19 ในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ
นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก "หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC" เกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 โดยระบุว่า "การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอก 2 จะหนักกว่ารอบแรก และต้องใช้เวลานานกว่าเดิมในการควบคุมการระบาด คนไทยต้องร่วมมือกัน อย่าตื่นกลัวมากเกินไป"
นอกจากนี้ ยังระบุถึงประเทศสิงคโปร์ ที่ประสบผลสำเร็จในการจัดการกับการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในแรงงานต่างชาติ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวอินเดียและบังคลาเทศ โดยระบุว่า "สิงคโปร์มีแรงงานต่างชาติ 323,000 คน มีการระบาดในแรงงานต่างชาติในเดือนเมษายน ต้องใช้เวลา 4 เดือนกว่าจะควบคุมได้ เขาตรวจรหัสพันธุกรรม PCR แรงงานต่างชาติทุกคน พบแรงงานต่างชาติติดเชื้อ 54,500 ราย คิดเป็น 93% ของยอดการติดเชื้อทั้งประเทศ 58,341 ราย
เขาเปลี่ยนศูนย์นิทรรศการ Expo ให้เป็นศูนย์ดูแลผู้ติดเชื้อชุมชน Community care facility สามารถแยกคนติดเชื้อ 8,000 คนออกจากคนไม่ติดเชื้อ ให้อยู่จนกว่าไม่แพร่เชื้อ แรงงานส่วนใหญ่อายุน้อย ทำงานก่อสร้าง ไม่มีอาการ หรือป่วยไม่มาก มีเพียง 2 รายที่เสียชืวิต เขาห้ามแรงงานต่างชาติออกข้างนอก ไม่ให้แพร่เชื้อให้กับคนสิงคโปร์ ล่าสุดจากการตรวจเลือดหาแอนติบอดี เขาพบว่าจริง ๆ แล้วแรงงานต่างชาติติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากถึง 47% คือ 152,000 คน ที่เป็นเช่นนี้ เพราะระยะแรกเขาไม่ได้แยกคนติดเชื้อออกจากคนที่ยังไม่ติดเชื้อ ปล่อยให้คนติดเชื้อกลับไปอยู่หอพักร่วมกับคนอื่น"
--------------------------------------------------------------------
สำหรับ "สิงคโปร์โมเดล" เมื่อสรุปแล้วจะเห็นว่ามีด้วยกัน 3 แนวทางคือ
1.เก็บข้อมูลแรงงานข้ามชาติอย่างเป็นระบบ เพื่อประโยชน์ในการติดตามตัว
2.สำรวจพฤติกรรมของแรงงานข้ามชาติ เช่น ไปที่ไหน ไปกับใคร และมีปฏิสัมพันธ์กับใครบ้าง ซึ่งข้อมูลนี้จะประโยชน์ในการติดตามและสืบสวนโรค
3.จำกัดพื้นที่การระบาด พร้อมดูแลแรงงานข้ามชาติหาสิ่งอำนวยความสะดวก และตรวจหาเชื้อเป็นประจำ
โดยรัฐบาลสิงคโปร์ได้จำกัดพื้นที่และการเดินทางให้แรงงานข้ามชาติทั้งหมดให้กักตัวอยู่ในหอพักแรงงาน รวมทั้งพยายามแยกผู้ติดเชื้อ และผู้ที่ไม่ติดเชื้อออกจากกัน เพื่อหยุดวงจรการแพร่ระบาด
อย่างไรก็ตาม หากจะนำโมเดลดังกล่าวมาใช้ในประเทศไทยนั้นยังถือว่าเป็นโจทย์ที่ท้าทาย เนื่องจากทั้งสองประเทศมีความแตกต่างกันในด้านการเข้ามาของแรงงาน สิงคโปร์ เป็นแรงงานข้ามชาติถูกกฎหมาย ทำให้มีข้อมูลและรู้จำนวนที่แน่ชัด ส่วนประเทศไทย ยังมีแรงงานที่ลักลอบเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก