วานนี้ 4 มกราคม 2564 ณ ห้องประชุม บริษัท ไทยลีก จำกัด ได้จัดการประชุมสโมสรสมาชิก ระดับไทยลีก เพื่อหารือแนวทางจัดการแข่งขัน ในช่วงการระบาดใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ขึ้น
โดยขณะนี้ พื้นที่ในกรุงเทพมหานครฯ และหลายจังหวัด ได้มีมาตรการปิดสนามกีฬา รวมถึงกำหนดให้ผู้ที่เดินทางจากพื้นที่ควบคุมต้องกักตัว 14 วัน ส่งผลให้บางแมตช์ต้องเลื่อนแข่งขันออกไป และหลายสโมสร ไม่สามารถฝึกซ้อมแบบแบ่งทีม รวมถึงประสบปัญหาการเดินทางยามไปเล่นเป็นทีมเยือน ทำให้เกิดอุปสรรคในการแข่งขัน ทั้งในรายการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพ และฟุตบอลถ้วย ช้าง เอฟเอ คัพ จึงทำให้ไม่สามารถดำเนินการแข่งขันแบบปิดเหมือนลีกต่างชาติในยุโรป เช่น พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้
ซึ่งทาง บริษัท ไทยลีก จำกัด ได้มีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิดกับผู้ถือลิขสิทธิ์และผู้ถ่ายทอดสด โดยมีการหารือตั้งแต่ช่วงโควิด-19 เริ่มกลับมาระบาดระลอกใหม่ จนถึงความเป็นไปได้ในการเลื่อนการแข่งขัน และการจัดโปรแกรมใหม่
สำหรับมติในที่ประชุม ได้มีแนวคิดที่จะเลื่อนการแข่งขันในเดือนมกราคมออกไป โดยเริ่มตั้งแต่นัดตกค้าง คู่ระหว่าง สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด พบ การท่าเรือ เอฟซี วันที่ 5 มกราคม 2564 โดยจะมีการประเมินสถานการณ์ร่วมกันทุกสัปดาห์ และหากมีสัญญาณที่ดีขึ้น อาจมีการขยับมาเริ่มแข่งขันเร็วขึ้นได้ ซึ่งจะมีการแจ้งให้สโมสรทราบ ก่อนหน้าทำการแข่งขันอย่างน้อย 5 วัน โดยในส่วนของวันแข่งขันใหม่นั้น บริษัท ไทยลีก จำกัด จะมีการแจ้งให้ทราบในส่วนของรายละเอียดอีกครั้ง
ซึ่งทางด้านของ กรวีร์ ปริศนานันทกุล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยลีก จำกัด กล่าวหลังจบการประชุมว่า “สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และ บริษัท ไทยลีก จำกัด พยายามหาทางออก โดยหารือร่วมกันกับสโมสรสมาชิก ถึงแนวทางการจัดการแข่งขัน ภายใต้การระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19”
“สมาคมฯ และไทยลีก ให้ความร่วมมือกับทางภาครัฐ ในการควบคุมและป้องกันการระบาดของโรคดังกล่าว โดยปฏิบัติตามมาตรการของศบค. และจังหวัดต่างๆ”
“ที่ผ่านมา ไทยลีกในฐานะองค์กรจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพ ได้ดำเนินการให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐ ขณะเดียวกัน ก็มีการจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ร่วมกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น สโมสร, ผู้ถือสิทธิ์ถ่ายทอดสด รวมถึงฝ่ายที่เกี่ยวข้อง”
“ซึ่งในเบื้องต้น ได้มีการเลื่อนแข่งขันในเดือนมกราคมออกไปก่อน แต่หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น เราก็มีการพิจารณาที่จะจัดหาสนามกลาง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องมีการปรึกษากับทางศบค. ถึงความเป็นไปได้ในเรื่องดังกล่าว และต้องมีการพิจารณาในส่วนของค่าใช้จ่าย, ที่พัก และสนามซ้อม ให้เพียงพอต่อจำนวนทีมแข่งขัน”
“ขณะเดียวกัน การยืนยันอันดับ 3 และ 4 สำหรับแข่งขัน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2021 เราก็ได้หารือกับเอเอฟซีอย่างใกล้ชิด ซึ่งเอเอฟซีเข้าใจถึงสถานการณ์ และพร้อมร่วมมือกับสมาคมฯ และไทยลีก ในการร่วมกันหาทางออกต่อไป”