พายุถล่มประเทศสเปนหนักสุดในรอบทศวรรษ ทำการจราจรเป็นอัมพาต สนามบินปิด อุณหภูมิเลวร้ายสุดติดลบถึง -35.6 องศา
ผู้ใช้รถกว่า 400 คน ต้องติดค้างอยู่บนถนนมอเตอร์เวย์ M-30 และ M-40 ใกล้กับกรุงมาดริด เมืองหลวงของประเทศสเปน หลังจากพายุฟิโลมินา พัดเข้าถล่มประเทศ ส่งผลให้เกิดพายุหิมะตกหนักในรอบทศวรรษ เจ้าหน้าที่ต้องแจ้งเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางที่ไม่จำเป็น
ขณะที่ทหารต้องออกมาช่วยกู้ภัยรถของประชาชน ที่ติดอยู่บนหิมะ เนื่องจากไม่สามารถเคลื่อนย้ายรถได้ เพราะถนนได้กลายเป็นน้ำแข็ง ต้นไม้บางต้นถูกหิมะพัดล้มระเนระนาดกรีดขว้างทางเดินและถนน
นอกจากนี้พายุหิมะ ยังทำนักฟุตบอลทีมเรียล มาดริด ที่กำลังจะเดินทางไปแข่งขัน ต้องติดค้างอยู่บนเครื่องนานถึง 2 ชั่วโมง การเดินทางด้วยเครื่องบินเกิดความโกลาหล จนทางการต้องสั่งปิดบริการสนามบินชั่วคราว เช่นเดียวกับสวนสาธารณะ และรถไฟฟความเร็วสูง
ด้านพยากรณ์อากาศ รายงานว่า พายุหิมะที่ตกหนัก ทำหิมะสูงถึง 20 เซ็นติเมตรภายใน 24 ชั่วโมง และทำให้อุณหภูมิติดลบ ถึง –35.6 องศาเซลเซียลอย่างรวดเร็ว ทำให้ระบบเตือนภัยทางตอนใต้ของกรุงมาดริดส่งสัญญาณเตือนเป็นครั้งแรกตั้งแต่มีการติดตั้งในปี 2007