อดีตยูทูบเบอร์บ้านลุงพลแฉ ตั้งกฎเซฟภาพลักษณ์ ไม่ทำตามเสี่ยงถูกให้ออกจากพื้นที่ ขณะตำรวจนำ 6 พยานสำคัญ เข้าเครื่องจับเท็จ พบเป็นพยานที่เคยให้ข้อมูลเชื่อมโยงถึงลุงพล
นายสุรชัย สุวรรณกิจ ยูทูบเบอร์ช่อง “บูมน้อย ร้อยเอ็ด” เปิดใจต่อสื่อมวลชน ระหว่างเดินทางเข้าขนย้ายสิ่งของออกจากหมู่บ้านยูทูบเบอร์ข้างบ้านลุงพล โดย “บูมน้อย” บอกว่า ตัดสินใจออกจากบ้านกกกอกวันนี้ เพราะอึดอัด หลังจากที่บรรยากาศในพื้นที่เริ่มเปลี่ยนไป
อย่างก่อนนี้ ที่ตัวเองถูกลุงพล เรียกไปตำหนิ กรณีให้ข่าวกับสื่อช่องหนึ่ง เกี่ยวกับเปอร์เซ็นต์รายได้ช่องยูทูปของตัวเอง ทำให้ลุงพลไม่พอใจ บอกว่า ไปให้สัมภาษณ์กับสื่อทำไม ไม่ควรทำแบบนี้ เพราะจะทำให้ยอดวิวของยูทูบเบอร์ลดลง
อีกทั้งยังรู้สึกอึดอัดใจ ในการถ่ายวีดีโอลงช่องยูทูป ที่มีกฎว่า จะต้องเซฟภาพลักษณ์ของลุงพล ห้ามปล่อยให้มีภาพและเสียงที่ไม่ดีออกไป ซึ่ง “บูมน้อย” มองว่า เป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น เพราะไม่ว่าต่อหน้าจะเป็นอย่างไรหรือลับหลัง ก็ควรจะปฏิบัติตัวเหมือนกัน
“บูมน้อย” บอกด้วยว่า อีกเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้ตัวเองไม่พอใจ และตัดสินใจออกจากพื้นที่วันนี้ ก็คือวันที่ “น้ำฟ้า” ภรรยาของหมอปลา เดินทางมาหาลุงพล ครั้งสุดท้าย หลังจากนั้น มีการเรียกประชุมยูทูบเบอร์ และสั่งให้ลบคลิปภาพทั้งหมด
ซึ่งตัวเองไม่เห็นด้วย เพราะมองว่า ภรรยาของหมอปลา ไม่ได้ทำอะไรผิด และสุดท้ายยังมองว่า เพราะมีคดีลุงพล มีสื่อหลักมานำเสนอข่าว จึงมียูทูบเบอร์ บ้านลุงพลในวันนี้ หลังจากให้สัมภาษณ์เสร็จ “บูมน้อย” ได้เข้าไปเก็บของที่กระท่อม ที่พัก ซึ่งอยู่ข้างบ้านลุงพล พร้อมได้เข้าไปร่ำลาเพื่อนยูทูบเบอร์บางคนด้วย
ส่วนความคืบหน้าคดีน้องชมพู่ วันนี้ พนักงานสอบสวน สภ.กกตูม ได้เดินทางมารับพยานสำคัญในคดี จำนวน 6 คน ประกอบด้วย พระอาจารย์บุญมา เจ้าอาวาสวัดถ้ำ ภูผาเเอก // พ่อเเบม // นางดอน / และเด็กชายก๊วยเจ๋ง ลูกชายน้าเสริม ชาวบ้านกกเอก รวมถึงเเละนางส้มโอ (นามสมมติ) ชาวบ้านกกตูม โดยจะนำทั้งหมดไปยังศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 จังหวัดปทุมธานี เพื่อเข้าเครื่องจับเท็จในวันพรุ่งนี้ ซึ่งพยานกลุ่มนี้ ถือเป็นพยานสำคัญ ที่อยู่ในเหตุการณ์วันที่ 11 พฤษภาคม 2563 หลังจากที่น้องชมพู่ หายตัวไป
พระอาจารย์บุญมา เป็นพยานที่เคยให้การกับตำรวจ ยืนยันว่า ช่วงสายของวันที่ 11 พฤษภาคม ได้เจอกับลุงพล บนวัดถ้ำภูผาเเอก ระหว่างที่ลุงพล ขับรถขึ้นมารับพระครูบารัตน์ โดยได้ยินลุงพล พูดว่า "เกือบไม่ได้ไปส่งพระแล้ว เพราะหลานหาย" พระอาจารย์บุญมา ระบุว่า อาตมายังยืนยันในคำให้การเดิมที่เคยให้ไว้กับตำรวจ เเละไม่ได้รู้สึกกังวลที่จะต้องไปเข้าเครื่องจับเท็จ
ส่วนพ่อแบม ชาวบ้านกกกอก ที่เคยให้การไว้ว่า เห็นลุงพลที่สวนยางพาราข้างบ้าน ประมาณ 9 โมงเช้า ของวันที่ 11 พฤษภาคม โดยพ่อเเบม ระบุว่า เคยให้การกับตำรวจไปเเล้วมากกว่า 10 ครั้ง ช่วงเเรกยังไม่ชัดเจนเท่าที่ควร จึงมีการให้ข้อมูลเพิ่มเติมหลายครั้ง แต่ครั้งนี้ที่จะไปเข้าเครื่องจับเท็จ ก็จะให้ข้อมูลเดียวกับที่เคยให้ไว้ครั้งสุดท้าย และไม่ได้รู้สึกกังวลใจ
ทั้งนี้ พ่อแบมชาวบ้านกกกอก ออกตามหาน้องชมพู่ บนภูเหล็กไฟฝั่งตะวันออก ซึ่งนางส้มโอ เห็นลุงพลใส่เสื้อภูไท ยืนอยู่คนเดียว จึงร้องเรียก เเต่ลุงพล ไม่ตอบรับก่อนจะเดินเเยกกันไปอีกทาง วันนี้นางส้มโอ ยังยืนยันในข้อมูลเดิม เพราะสิ่งที่พูดคือความจริง และไม่ได้รู้สึกกังวลใจเช่นกัน
นอกจาก 3 คนนี้ ยังมีนางดอน มะลิรส ชาวบ้านกกกอก พยานที่เห็นลุงพล บนวัดภูผาเเอก เด็กชายก๊วยเจ๋ง พยานที่อยู่ใกล้จุดที่น้องชมพู่หายตัวไป และพระครูบารัตน์ ที่ลุงพล อาสาไปส่งในวันที่น้องชมพู่หาย
มีการตั้งข้อสังเกตว่า กลุ่มพยานที่ตำรวจนำตัวเข้าเครื่องจับเท็จในครั้งนี้ เป็นกลุ่มพยานที่เคยให้ข้อมูลเชื่อมโยงถึงลุงพล และมีบางส่วน อย่างพระอาจารย์บุญมา และพ่อแบม ที่เคยถูกลุงพล ต่อว่าให้ข้อมูลไม่เป็นความจริง เเต่ทั้งหมดก็ยังยืนยันคำให้การเดิมตลอด