ดีอีเอส แจ้งความ "ธนาธร" ผิด ม.112 - พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ปมไลฟ์เฟซบุ๊กวิจารณ์นำเข้าวัคซีนโควิด-19 โยงสถาบัน
(20 ม.ค. 2564) ที่ บก.ปอท. นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มอบหมายให้ นายเนวินธุ์ ช่อชัยทิพย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกับนายทศพล เพ็งส้ม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี และนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษเอาผิด นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ตามมาตรา 112 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หลังแกะคลิปไลฟ์สดบนเฟซบุ๊กวิจารณ์รัฐบาลก่อนกล่าวโยงไปถึงสถาบันกรณีนำเข้าและผลิตวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า สหราชอาณาจักร ที่เชื่อมโยงกับบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์
โดยนายทศพล กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้มาแจ้งความเอาผิด นายธนาธร จากการวิจารณ์รัฐบาลเรื่องการนำเข้าการผลิตวัคซีน โดยได้แกะคลิปวิดีโอไลฟ์สดกว่า 30 นาที ไล่ตั้งแต่นาทีที่ 03.20 น. รวมแล้ว 11 ช่วงตอน ที่กล่าวหารัฐบาลเรื่องประสิทธิภาพ การผลิตล่าช้า และนำสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้องเรื่องการถือหุ้นบริษัท เป็นการนำประชาชนมาเป็นตัวประกัน จึงแจ้งความผิดในข้อหาตาม มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เนื่องจากเป็นการสร้างความบิดเบือนเข้าใจผิดต่อสังคม ซึ่งภาครัฐได้ชี้แจงในประเด็นต่าง ๆ ไปแล้ว
และหากพบว่ามีใครเกี่ยวข้องอีกจะดำเนินคดีทั้งหมด โดยจะติดตามการทำงานของพนักงานสอบสวนอย่างใกล้ชิด ส่วนกรณีที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ตั้งคำถามเรื่องงบประมาณเกี่ยวกับวัคซีน ตนมองว่าการชี้นำกับการตั้งคำถามนั้นต่างกัน กรณีนี้เป็นการชี้นำให้เกิดความเข้าใจผิด
ขณะที่นายสุภรณ์ กล่าวว่า ตนผิดหวังในตัวนายธนาธร ที่พยายามบิดเบือนคำพูดทำให้ประชาชนเข้าใจผิด ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่าหากมีใครบิดเบือนนำข่าวเท็จมากล่าวหาดูหมิ่น ก็คงไม่ปล่อยไว้ ต้องดำเนินการตามกฎหมาย