เป็นละครทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 อีกหนึ่งเรื่องที่เรตติ้งติดท็อปไฟว้ อยู่ในลิสละครที่ทำเรตติ้งสูงสุดให้กับทางสถานี สำหรับละคร "สาปกระสือ"
ล่าสุดพร้อมปลุกตำนาน นำมาออกอากาศอีกครั้งในช่วงเหตุการณ์โควิด 19 กลับมาระบาดในรอบสอง จึงทำให้ละครที่เตรียมออกอากาศที่ทุกคนต่างตั้งหน้าตั้งตารอละคร เรยา และเวราอาฆาต ต้องพับเก็บไปก่อน แต่อย่างไรเชื่อว่า สาปกระสือ ก็เป็นละครที่ครองใจอยู่ในความทรงจำที่แฟนๆ อยากกลับมาดูอีกครั้ง วันนี้เราเลยมาทบทวนความทรงจำกันสักหน่อยว่า ทำไมละคร สาปกระสือ ถึงสร้างเรตติ้งให้กับทางช่อง 8 ได้รับเสียงตอบรับจากแฟนๆมากมาย และความพิเศษของเรื่องนี้อยู่ตรงไหน
เป็นละครพีเรียดเรื่องแรกจองผู้จัดเอ๊ะ-อิศริยา งานนี้คงต้องมอบมงให้กับผู้จัดคนเก่ง ในความละเอียด ในทุกๆขั้นตอนการทำละคร บท ปัง ดูแล้วไม่หลับใน องค์ประกอบอื่นๆดูลงตัว ถึงแม้เนื้อเรื่องจะมีถึงสองยุค แต่ยุคอดีตก็สร้างความ ตราตรึงให้กับแฟนละครไม่น้อย ด้วยฉากที่ยิ่งใหญ่ จัดเต็ม ลงทุนไปถ่ายโลเคชั่นสวย แถมชุดนางอัปสราสีแดง ที่อินเสิร์ทข้อมูลมาแบบจริงๆ ให้นางเอกน้ำตาล-ชลิตา ใส่ร่ายรำก็สวยจนขนลุก จนเป็นซีนประทับใจของแฟนละคร ถึงแม้จะผ่านเวลาไปนานก็ยังมีคนพูดถึงซีนนี้อยู่จนถึงปัจจุบัน
ชุดนางอัปสรา ที่ น้ำตาล-ชลิตา ถ่ายติดภาพเงาปริศนา ขณะเข้าฉาก อย่างที่บอกว่าสวยจนขนลุก งานนี้ดูท่าจะขนลุกของจริง เพราะในขณะที่น้ำตาลกำลังเตรียมตัวเข้าฉากรำ ได้ทำการถ่ายรูปและดันเกิดเงาปริศนา คล้ายใบหน้าคนใส่ชฎา น้ำตาลเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า ฉากนี้ไปถ่ายทำที่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ปราสาทเมืองสิงห์ ซึ่งกว่าจะได้ถ่ายทำต้องรอถึงสามวันกว่าฝนฟ้าจะเป็นใจ จนต้องบนด้วยของที่ชาวบ้านแนะนำ และพอเข้าฉากนี้ สาวน้ำตาลยังบอกอีกว่า ตอนรำอินมากเหมือนรู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง งานนี้เห็นทีต้องรอชมฉากนี้ อีกครั้งแล้วว่า น้ำตาลจะถ่ายทอดออกมาได้สวยงาม น่าประทับใจแค่ไหน
น้ำตาล-ชลิตา ถอดมง มาลงละครเรื่องแรก ก็เปรี้ยง!เลย เป็นอีกหนึ่งคนในวงการบันเทิง ที่มีของแรงมาก เพราะเพียงแค่ละครเรื่องแรก เธอก็สามารถถ่ายทอดบทบาทของ นลิน ได้ออกมาอย่างดีมากและฉากหิน ๆ ของสาวน้ำตาล ในเรื่องนี้มีอยู่มากมาย ไม่ว่าฉากดราม่า ร้องไห้น้ำตานองหรือฉากที่เธอต้องกลายร่างเป็นกระสือ ที่น้ำตาลทำออกมาได้ดีมาก ถ้าไม่บอกคิดว่าเธอเคยผ่านงานละครมาแล้ว ความปังนี้ เลยเข้าตาแฟนละครเข้าอย่างจังกับความใหม่ ที่ทรงเสน่ห์ ส่งผลให้เธอแจ้งเกิดในฐานะนักแสดงอย่างสวยงาม
เรื่องลี้ลับที่คนไทยชอบ ! ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนไทยชอบเสพเรื่องลี้ลับ ยิ่งพอรู้ว่าจะมีละคร ที่เกี่ยวข้องกับตำนานผีไทยอย่างกระสือ ทำให้หลายคนเฝ้าจอรอคอยอยากจะดู ว่ากระสือในยุคดิจิตอล จะออกมาเป็นอย่างไร แถมความปังอยู่ที่ พล็อตเรื่องใหม่ ที่เขียนขึ้นมาใหม่ด้วยการสืบทอดทายาทกระสือ ไม่ใช่ทางน้ำลายแต่เป็นทางคำสาป แถมเนื้อเรื่องก็โคตรจะครบรส มีทั้งดราม่า คอมเมดี้ สยองขวัญ ครบรสขนาดนี้ รีโมทไม่มีทางสะเทือนแน่นอน !!
ลงทุนหล่อหัวกระสือ ที่มีใบหน้าเหมือน น้ำตาล-ชลิตา ใครเห็นเป็นต้องอึ้ง อย่างที่บอกว่างานนี้ผู้จัด เอ๊ะ ลงทุนเพื่อความแนบเนียนสมจริง ถึงขั้นลงทุนหล่อหัวกระสือ ซึ่งขั้นตอนในการทำ ก็สุดแสนจะยุ่งยาก กว่าจะเอาปูนแปะไปบนหน้าที่ละส่วน น้ำตาลต้องนั่งหลังแข็ง นานค่อนวัน กว่าจะหล่อใบหน้าออกมาได้ แต่ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาเกินคุ้น ซึ่งถ้าใครสังเกตก็จะได้เห็นหุ่นนี้ ในละครมากมายหลายฉากทีเดียว
ฉากถอดหัว สุดพีค! ปฏิเสธไม่ได้ว่า อีกหนึ่งความน่าดู ของเรื่องสาปกระสือ นั่นคือฉากที่กระสือแต่ละตนถอดหัว ซึ่งในเรื่อง กระสือมีด้วยกันสามตน แล้วแต่ละตน ก็จะมีซีนที่ต้องถอดหัวครั้งแรก ที่ทีมงานก็ดีไซน์ให้ อินเนอร์ ความพีคของแต่ละตัวไม่เหมือนกัน ซึ่งกล้าพูดได้เลยว่า วันไหนมีฉากถอดหัว วันนั้นเรตติ้งพุ่งปรี๊ดทั้งออนไลน์และทางหน้าจอ แค่นี้ก็รู้แล้วว่าเลิศแค่ไหน บอกเลยว่า สุดทุกอารมณ์ จริง ๆ
นักแสดงคุณภาพคับจอ ! เรื่องนี้ยังเป็นความโชคดีอีกอย่างหนึ่งของ น้ำตาล-ชลิตา ที่ได้ประกบกับนักแสดง ฝีมือเลิศ แนวหน้าของวงการ อาทิ สมาร์ท-กฤษฎา พระเอกที่มากความสามารถเล่นได้หลากแนว แถมรุ่นใหญ่ อาทิ ต่าย-เพ็ญพักตร์,ต่อง-สาวิตรี, ตั๊ก-นภัสกร ที่เป็นอีกหนึ่งเคมีหลัก ทำให้ละครเรื่องสาปกระสือ มีความน่าดูและสมบูรณ์ ยกตัวอย่าง ต่อง-สาวิตรี กับซีนสืบทอดทายาท ความเป็นกระสือ ที่ทุกคนประทับใจ ตั๊ก-นภัสกร กับการมาร่วมงานช่อง 8 ครั้งแรก ก็ทำเอาแฟนละครอินในความร้ายกาจจนแทบเดินตลาดไม่ได้
กระสือสองตัวสู้กัน ! สร้างความว้าว ให้กับหน้าละครไทยมาก ๆ กับซีนกระสือ ปัณรี และกระสือนลิน ออกมาสู้กัน เพื่อปกป้องผู้ โอ้โหว! ฟังดูเป็นเรื่องยิ่งใหญ่มาก แต่เอ๊ะ! กระสือมันจะสู้กันอย่างไร ในเมื่อมีแค่หัวกับไส้ แต่พอฉากนี้ออกอากาศไป ก็ทำเอาคนดูถึงขั้นพูดว่า ยอมในความครีเอทีฟ ของทีมงาน งานนี้มีให้ชมกันอีกครั้งแน่นอน ต้องรอดู
ละครสาปกระสือ ปังปุริเย่ จนต้องเพิ่มตอน เป็นการตอกย้ำความสนุกอีกทาง เพราะละครเรตติ้งปังจนต้องเพิ่มตอน เพราะหากย้อนเวลากลับไป ละครเรื่องสาปกระสือ ประสบความสำเร็จมากจนแฟนละครเรียกร้องยังไม่อยากให้จบ งานนี้ ผู้จัดเรียกคนเขียนบท พร้อมยกหูขอคิวนักแสดง เพื่อมาถ่ายทำเพิ่มตอน แบบด่วนจี๋ไปรษณีย์จ๋า ที่น่าชื่นชม ตรงเรื่องบท สามารถเพิ่มเนื้อเรื่อง ออกมาได้แนบเนียน กลมกล่อมขึ้นไม่ยืดยาน
ทำเรตติ้งละครไทยสูงสุดของช่อง 8 ในปี 61 ซึ่งในตอนนั้น ละครสาปกระสือกวาดเรตติ้ง สูงสุดไปได้ถึง 3.534 สร้างปรากฏการณ์หน้าใหม่และพลิกโฉมให้กับละครช่อง 8 ได้ในพริบตา และท้ายที่สุดนี้ เรตติ้งก็เป็นอีกอย่างที่การันตีได้ว่า ละครสาปกระสือ เป็นละคร ที่เป็นละครมหาชน อีกเรื่อง ที่สร้างความประทับใจให้กับแฟนละคร ได้ครบทุกด้านจริง ๆ
สามารถติดตามชมละคร “สาปกระสือ” ได้อีกครั้ง ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 19.00 น. โดยจะออกอากาศให้ชมกันแบบเต็มอิ่ม 2 ชั่วโมง ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 กดหมายเลข 27