สามีซาดิสต์ซ้อมภรรยาสาหัส เปิดใจที่แรกกับช่อง 8 ยอมรับ ทำร้ายภรรยาจริง แต่ไม่เคยบังคับขายตัว และไม่ได้กักขัง ที่ทำไปเพราะความหึงหวง
คดีที่นางสาวเอ ถูกนายบูรพา สามีกักขังซ้อมทารุณ ใช้เข็มขัดรัดคอ กระทืบที่อวัยวะเพศ ใช้นิ้วล้วงเข้าไปในอวัยวะเพศ ดึง จิก จนเลือดออก กระทืบหน้าอก กระทืบหน้า จนบอบช้ำทั่วร่างกาย กระทั่งซมซานหนีตายขอความช่วยเหลือชาวบ้าน
วันนี้คุณดารินทร์ หอวัฒนกุล ผู้สื่อข่าวช่อง 8 ได้รับการติดต่อจากนายบูรพา สามีโหดเปิดใจกับช่อง 8 เป็นที่แรก ยอมรับว่า ทำร้ายร่างกายภรรยาจริง แต่ยืนยันว่า ไม่ได้มีการกักขัง และไม่ได้ทำรุนแรงซาดิสต์ อย่างที่ภรรยากล่าวหา ใช้เพียงแค่มือตบตีที่หน้า และใช้นิ้วล้วงเข้าไปในอวัยวะเพศภรรยา แต่ไม่ได้ดึง จิก จนเลือดออก ไม่เคยใช้เข็มขัดรัดคอหรือกระทืบ ทำร้ายแค่ประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นก็ยังดูแลหาข้าว ซื้อยามาให้ ยืนยัน ไม่เคยมีพฤติกรรมรุนแรง ซาดิสต์ เพราะหากตนทำร้ายภรรยา 50-60 ครั้งภายใน 2 ปีที่คบหากันจริง ทำไมภรรยาถึงไม่แจ้งความ
ส่วนสาเหตุที่ทำร้าย เพราะแค้นที่จับได้ว่าภรรยากลับไปทำอาชีพเดิม มีอะไรเกินเลยกับแขก ยืนยัน ไม่เคยบังคับภรรยาไปขายตัว แต่ภรรยาออกไปทำเอง และไม่เคยบังคับภรรยาไปกู้เงินมาเลี้ยงดู ที่ผ่านมาเป็นฝ่ายทำงานหาเงินเลี้ยงดูภรรยา เพราะตนก็มีอาชีพขับแท็กซี่
ข่าวที่ออกมากระทบกระเทือนจิตใจ เพราะฝืนทนอยู่ด้วยความรัก แต่กลับเป็นฝ่ายถูกใส่ร้ายเกินจริง อยากขอความเป็นธรรม หลังจากนี้เตรียมรวบรวมหลักฐานสู้คดี
คุณดารินทร์ ยังเดินทางไปที่อู่แท็กซี่ซึ่งนายบูรพา เคยเช่ารถขับอยู่ เจ้าของอู่ เล่าว่า นายบูรพาเคยมาเช่ารถที่อู่จริง เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ที่แล้ว แต่หลังจากที่นำรถออกไปขับก็ไม่ยอมเอารถมาคืน โทรไปหาก็ไม่ยอมรับสาย
หลังจากนั้น นายบูรพาก็ยอมเอารถมาคืน โดยบอกว่าจอดรถทิ้งไว้ที่สนามหลวง เมื่อไปถึงพบรถ แต่ไม่พบตัวนายบูรพา จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้รับค่าเช่ารถ 5,000 บาท ส่วนเรื่องที่ไปก่อเหตุทำร้ายร่างกายภรรยา เพิ่งจะทราบจากสื่อในวันนี้
ด้านคดีพันตำรวจเอก พีรเดช เจริญเดช ผกก.สภ.บางใหญ่ เปิดเผยกับว่าเป็นสิทธิ์ที่ผู้ต้องหาจะอ้างอย่างไรก็ได้ แต่คดีนี้เป็นเรื่องทำร้ายร่างกาย ตำรวจมีพยานหลักฐานชัดเจนเพียงพอที่จะดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท คดีนี้เป็นคดีอาญา ไม่สามารถยอมความได้