ตำรวจ ปคบ. ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมกัน จับกุมผู้ลักลอบผลิต "ครีมเขมร" ที่ขายอย่างแพร่หลายทางสื่อโซเชียล ซึ่งพบว่า ครีมดังกล่าว ไม่มีเลขจดแจ้งและมีสารปรอทเป็นส่วนผสม ทำให้เกิดอันตรายแก่ผู้ใช้ และพบว่ามีต้นทุนแค่กระปุกละ10 บาท ขณะเข้าจับกุมพบมีลูกค้าสั่งออเดอร์ถึงแสนกระปุก
อุปกรณ์ที่เห็นไม่ใช่อุปกรณ์ทำขนมหรือทำอาหารแต่เป็นอุปกรณ์ที่ นายโจ ผู้ต้องหา ตามความผิดพรบ. เครื่องสำอาง ใช้ในการผลิตครีมเขมร ที่มีการขายแพร่หลายในสื่อออนไลน์ ซึ่งตำรวจ กองบังคับการตปราบปรามกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค บุกเข้าจับกุม นายโจ ได้ที่บ้านหลังหนึ่งในจังหวัดสระแก้ว ขณะกำลังทำการผสมครีมเขมรเพื่อส่งขายต่อ นายโจ สารภาพว่าใช้อุปกรณ์ทำขนมในการผลิตครีมเขมรโดยไม่มีสูตรตายตัว โดยซื้อครีมทั่วไปมาผสมเองตามความชอบ และยอมรับว่าคิดทำขึ้นมาเพราะได้รับความสนใจจากสื่อออนไลน์โดยเฉพาะติ๊กต๊อก
ตำรวจจึงได้ตรวจยึดของกลางไว้ทั้งหมดเป็นครีมสำเร็จรูปพร้อมจำหน่าย 523 ถุง ครีมกระปุกฝาแดง 1989 กระปุก วิตามินซี 30 หลอด ครีมรอบรรจุอีก 80 กิโลกรัม และอุปกรณ์ผลิตรวมมูลค่ากว่า 500,000 บาท และได้แจ้งข้อกล่าวหาตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอางฐานผลิตและขายเครื่องสำอางไม่ได้จดแจ้งและไม่มีฉลาก
นอกจากนั้นตำรวจ ยังได้ขยายผลจับกุมผู้ค้ารายใหญ่ในอีกสามจังหวัด คือจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรีและพระนครศรีอยุธยา ซึ่งผู้ผลิตรับสารภาพว่ามีต้นทุนในการทำครีมเขมรในราคาแค่ 10 บาท แต่จะขายให้กับผู้ผลิตรายใหญ่ในราคา 20 บาทและขายตามท้องตลาดทั่วไปในราคา 120 บาท ส่วนที่ใช้ชื่อว่าครีมเขมรนั้น ไม่ได้มีที่มาจากคนเขมรเป็นผู้ผลิตหรือคิดสูตร เพียงแต่สร้าง สตอรี่ เรื่องราวให้คนสนใจซื้อ ว่าเป็นครีมสูตรพิเศษจากประเทศเพื่อนบ้าน
ด้านรองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา บอกว่าครีมเถื่อนนี้ นิยมขายตามตลาดนัด และนักโฆษณาเกินจริงอ้างรักษาสิวรอยแผลเป็น ฝ้ากระ ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใส ซึ่งที่ผ่านมาอย.เคยตรวจสอบพบมีสารต้องห้ามในเครื่องสำอางประเภทนี้ เช่นสารปรอท สเตียรอยด์ ซึ่งหากใช้เป็นเวลานานอาจทำให้ผิวหน้าด ำบางลงแตกลายถาวร และเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง