ตำรวจเตรียมกำลัง 4,000 นาย รับมือม็อบหน้ารัฐสภา ด้านแกนนำโพสต์แจ้งผู้ชุมนุมห้ามพกอาวุธ หวั่นสถานการณ์บานปลาย
(20 ก.พ. 2564) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุถึงกรณีที่กลุ่มราษฎรนัดชุมนุมภายหลังการประชุมสภาผู้แทนราษฏรเพื่อลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ 10 รัฐมนตรี ว่า การปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจในการดูแลการชุมนุมวันนี้จะถอดบทเรียนมาจากการชุมนุมครั้งที่ผ่านมา โดยเฉพาะเรื่องการจัดกำลังตำรวจที่จะปรับให้มีความเหมาะสมมากขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับการบังคับใช้กฎหมาย
พร้อมฝากถึงกลุ่มผู้ชุมนุมว่า ขณะนี้ยังมีการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.ควบคุมโรค เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อยากให้ผู้ชุมนุมใช้แนวทางการเจรจากับหน่วยงานที่อยากเรียกร้องเป็นหลัก ซึ่งหากมีการชุมนุมเกิดขึ้นก็ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย
ขณะที่ข้อมูลทางการข่าวพบว่า วันนี้ได้มีการรวมตัวกันชุมนุมใน 2 จุด จุดแรกที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เวลา 10.00 น. และ จุดที่สอง คือบริเวณหน้าอาคารรัฐสภา ในเวลา 15.00 น. ส่วนวันนี้จะมีการใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมหรือไม่นั้น รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ไม่สามารถตอบได้เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับผู้ชุมนุม หากมีการยั่วยุหรือสร้างสถานการณ์ความรุนแรงตำรวจก็ต้องดำเนินการตามยุทธวิธีเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย
ส่วนจะเปิดพื้นที่ให้ผู้ชุมนุมเข้ามาได้ถึงบริเวณไหนนั้นก็จะต้องประเมินสถานการณ์อีกครั้ง โดยได้เตรียมกำลังตำรวจไว้ 4,000 นาย เพื่อผลัดเปลี่ยนกันทำหน้าที่ เบื้องต้นตำรวจจะแบ่งประจำการ 3 จุด คือ หน้า บ.บุญรอด แยกเกียกกาย (วัดแก้วฟ้าจุฬามณี) และวัดประดู่ธรรมาธิปัตย์
ส่วนการชุมนุมหน้าอาคารรัฐสภาของกลุ่มม็อบเฟสต์เมื่อวานนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อหากับบุคคลใด เนื่องจากอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน
ขณะที่แกนนำกลุ่มราษฎร นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง โพสต์ผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัวว่า มีการปล่อยข่าวว่าวันนี้กลุ่มผู้ชุมนุมจะนำระเบิดปิงปอง 40 ลูกมาสร้างสถานการณ์ในการชุมนุมนั้น ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง พร้อมขอความร่วมมือผู้ชุมนุมให้ต่อสู้ด้วยสันติวิธีงดการพกพาอาวุธเข้าพื้นที่ชุมนุม
ส่วนบรรยากาศหน้าอาคารรัฐสภา (เกียกกาย) ถนนสามเสน มีรถฉีดน้ำแรงดันสูง หรือจีโน่ รถเติมน้ำ และกำลังเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนมาสแตนด์บายไว้ภายในรัฐสภา ซึ่งทางเข้า-ออกของอาคารรัฐสภาวันนี้เปิดเพียง 1 ประตูใหญ่สำหรับให้รถเข้า-ออกเท่านั้น