ตำรวจ ยืนยัน ใช้มาตรการการสลายการชุมนุมตามหลักสากล เริ่มจากเบาไปหาหนัก เบื้องต้น มีตำรวจบาดเจ็บ 6 นาย จับกุมผู้ชุมนุมแล้ว 5 คน
พันตำรวจเอก กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยถึง การสลายการชุมนุม และการเข้าเคลียร์พื้นที่ บริเวณหน้าศาลฎีกาว่า ตำรวจใช้มาตรการ จากเบาไปหาหนัก โดยเริ่มจากการที่กลุ่มผู้ชุมนุมพยายามทำ พยายามทำลายสิ่งกีดขวาง ตู้คอนเทนเนอร์ หลังจากนั้นก็มีการประกาศให้ยุติการกระทำดังกล่าว แต่ไม่ยอมยุติ จึงมีการประกาศจะใช้มาตรการการฉีดน้ำสลับกับแก๊สน้ำตา เนื่องจากผู้ชุมนุมไม่ยอมหยุดพฤติกรรมการรื้อสิ่งกีดขวาง หลังจากนั้นก็เกิดเหตุชุลมุนขึ้น เจ้าหน้าที่ประกาศให้ผู้ชุมนุมออกนอกพื้นที่ แต่บางส่วนไม่ยอมกลับ จึงต้องมีการเข้าเคลียร์พื้นที่ และเกิดภาพเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวควบคุมตัวผู้ชุมนุมในลักษณะฉุดกระชาก ซึ่งเรื่องนี้ อยากให้ประชาชนย้อนกลับไปดูภาพผู้ชุมนุมไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ อย่างต่อเนื่องและพยายามทำลายสิ่งกีดขวางอย่างต่อเนื่อง จึงต้องใช้กำลังเข้าจับกุม
นอกจากนี้ การสลายการชุมนุมยังพบว่ามีเสียงดังคล้ายระเบิดบ่อยครั้ง พันตำรวจเอกกฤษณะ ชี้แจงว่า เสียงดังคล้ายระเบิดนั้นไม่ทราบว่ามาจากกลุ่มไหน แม้กระทั่งขณะให้สัมภาษณ์อยู่ก็ได้ยินเสียงนั้น เป็นระยะ สำหรับอุปกรณ์ที่เจ้าหน้าที่ใช้ในการสลายการชุมนุมครั้งนี้ กระสุนยาง กระบอง ปืน กระสุนยาง แก๊สน้ำตา รดน้ำ ซึ่งวิถีวิธีการยิงก็จะตามยุทธวิธี
ส่วนเหตุการณ์ที่บริเวณแยกคอก ที่มีเสียงดังไฟระเบิดบ่อยครั้ง และ มีกลุ่มควันเกิดขึ้น พันตำรวจเอกกฤษณะระบุว่า ยังไม่ได้รับรายงาน ขอร้องประชาชนผู้ชุมนุม ให้เดินทางกลับ ยืนยันว่า วิธีการสลายการชุมนุมในวันนี้ ตำรวจปฏิบัติตามหลักสากลทุกประการ