ต้องตามต่อว่าจะแก้ปัญหาสลากฯราคาแพงได้หรือไม่ ล่าสุด กองสลากฯ ประเดิมขายผ่านแอปฯ โดยงวดแรกประเดิม 1 มิ.ย.64
9 เมษายน 2564 นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะประธานสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้ปิดรับสมัครตัวแทนจำหน่ายสลากฯ ราคา 80 บาท ในโครงการ จีแอลโอ ออฟฟิเชียล เซลเลอร์ส
โดยมียอดผู้สมัครทั้งสิ้น 520 ราย แบ่งเป็นตัวแทนในเขตกรุงเทพฯ 460 ราย และ จ.นนทบุรีอีก 60 ราย โดยกระบวนการหลังจากนี้คือการคัดเลือกตัวแทน ซึ่งสำนักงานสลากฯ มีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนในการคัดเลือก รวมทั้งมีระบบควบคุมและติดตามการเคลื่อนไหวของตัวแทนผู้ค้าที่ผ่านการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการที่ดี
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวเป็นการทดลองนำระบบแอปพลิเคชันรับชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาใช้ในการซื้อขายสลากฯ ส่วนหนึ่งเพื่อแก้ปัญหาการขายเกินราคา และปัญหาการขายต่อเพื่อทำกำไร โดยเบื้องต้นจะนำร่องใช้กับเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายสลาก 80 บาท ทั้งหมด 56 พื้นที่ แบ่งเป็นพื้นที่กรุงเทพฯ 50 แห่ง และ จ.นนทบุรีอีก 6 แห่ง
คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในงวดวันที่ 1 มิ.ย. 2564 โดยผู้ค้าที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการจะได้รับสลากไปขายงวดละ 25 เล่ม โดยมีการทำสัญญาแบบปีต่อปีและต้องขายในราคาไม่เกิน 80 บาท
โครงการนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะมีจุดขายสลากราคา 80 บาทจริง ๆ โดยหลังจากเริ่มดำเนินโครงการไปสักระยะ ประมาณ 3 เดือน ก็จะมีการประเมินความสำเร็จของโครงการ หากพบว่าดี สำนักงานสลากฯ ก็พร้อมจะดำเนินการในลักษณะเดียวกันนี้ในทุกจุดทั่วประเทศ ซึ่งสำนักงานสลากฯ มองว่าตรงนี้จะเป็นเครื่องมือหนึ่งในการช่วยควบคุมราคาสลากฯ ได้ แม้ว่าอาจจะไม่ได้ 100% เพราะต้องใช้หลาย ๆ วิธีร่วมกัน ยืนยันว่าที่ผ่านมาสำนักงานสลากฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ได้มีการพยายามหาวิธีใหม่ ๆ เพื่อเข้ามาช่วยแก้ปัญหา
สำหรับผู้ที่ผ่านมาคัดเลือกตามหลักเกณฑ์ของโครงการแล้ว จะต้องเข้ามาเรียนรู้เกี่ยวกับระบบในการขาย วิธีการขายว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะเป็นการรับชำระเงินผ่านแอปพลิเคชัน
ซึ่งขณะนี้สำนักงานสลากฯ กำลังพิจารณาว่าจะใช้กับแอปพลิเคชันใดบ้าง แต่หากพูดถึงความพร้อมของแอปพลิเคชันภาครัฐอย่าง “เป๋าตัง” ก็มีความพร้อม และที่ผ่านมาประชาชนก็คุ้นเคยเป็นอย่างดี การจำหน่ายสลาก โดยการรับ-จ่ายเงินผ่านแอปพลิเคชันนี้ จะช่วยให้สำนักงานสลากฯ มีข้อมูลการซื้อขายทั้งหมด
สามารถระบุตัวตนผู้ซื้อ-ผู้ขายได้ ขายแล้วมีการนำไปจัดรวมชุดหรือเก็งกำไรต่อหรือไม่ และยังเป็นประโยชน์กับผู้ถูกรางวัลด้วย โดยข้อมูลที่ได้จากโครงการทั้งหมดจะเป็นประโยชน์ในการประเมินแนวทางในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการขายสลากฯ ด้วย
อย่างไรก็ดี ในส่วนของการแก้ปัญหาการรวมชุดสลากฯ นั้น สำนักงานสลากฯ ได้เร่งดำเนินการแก้ไขอย่างต่อเนื่อง มีการจัดสลากแบบ 2-1-1-1 เพื่อให้การรวมชุดทำได้ยากขึ้น ก็ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้ก็ยังมีการรวมชุดอยู่ โดยหลังจากนี้ต้องหาวิธีแก้ปัญหาไปด้วยการทำให้กระบวนการรวมชุดเหล่านั้นทำได้ยากขึ้น ๆ ไปเรื่อย ๆ อาจจะต้องให้เวลาหน่อย แต่การดึงเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการสลากฯ มากขึ้นนั้น น่าจะเป็นแนวทางหนึ่งที่ดี