ศบค.เห็นชอบล็อกดาวน์ 10 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม 14 วัน ห้ามออกนอกเคหะสถาน 21.00 - 04.00 น. มีผล 12 ก.ค. สั่งงดเดินทางข้ามจังหวัดเริ่มพรุ่งนี้
พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การโควิด-19 (ศบค.) แถลงผลการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด พิจารณายกระดับมาตรการการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบ ขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.ถึง 30 ก.ย.นี้ โดยจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 13 ก.ค.
สำหรับการปรับระดับพื้นที่ ให้มีพื้นที่ควบคุมสูงสุด 10 และเข้มงวด ได้แก่กรุงเทพฯ, นครปฐม, สมุทรปราการ, สมุทรสาคร, นนทบุรี, ปทุมธานี, ปัตตานี, ยะลา, นราธิวาส และ สงขลา
พื้นที่ควบคุมสูงสุดจากเดิม 5 จังหวัด เป็น 24 จังหวัด พื้นที่ควบคุมจากเดิม 9 จังหวัดเป็น 25 จังหวัด พื้นที่เฝ้าระวังสูงสุดจาก 53 จังหวัดเหลือ 18 จังหวัด และไม่มีประกาศพื้นที่เฝ้าระวัง
สำหรับมาตรการเข้มงวดที่จะบังคับใช้ในจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม 10 จังหวัด มีผลตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค.เป็นต้นไป คือ
เฉพาะกรุงเทพฯ และปริมณฑล
- ให้มีมาตรการทำงานที่บ้านให้มากที่สุด
- เปิดบริการระบบขนส่งสาธารณะถึงเวลา 21:00น.
- ร้านสะดวกซื้อ ตลาดโต้รุ่งปิดเวลา 20:00 น. ถึง 04:00 น.
- ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้าคอมมูนิตี้มอลล์ เปิดได้เฉพาะซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร เครื่องดื่ม ธนาคารสถาบันทางการเงิน ร้านขายยา และเวชภัณฑ์ ร้านอุปกรณ์สื่อสาร รวมถึงสถานที่ฉีดวัคซีนเปิดได้ถึงเวลา 20:00 น.
- ร้านจำหน่ายอาหารเครื่องดื่ม ห้ามบริโภคอาหาร หรือ สุรา เครื่องดื่ม ภายในร้าน เปิดได้ถึงเวลา 20:00 น.
- ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการติดโรค ได้แก่ ร้านนวดเพื่อสุขภาพ สปา สถานเสริมความงาม
- สวนสาธารณะสามารถเปิดให้บริการสำหรับการออกกำลังกายได้ ถึง 20:00 น.
- ห้ามรวมกลุ่มทำกิจกรรมทางสังคมที่ไม่ใช่การปฎิบัติหน้าที่ การประกอบอาชีพ กิจกรรมทางศาสนา หรือ กิจกรรมตามประเพณีที่มีการรวมตัวของบุคคลตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป
พื้นที่สีแดงเข้ม 10 จังหวัด
- ห้ามเดินทางที่ไม่จำเป็น และห้ามออกนอกเคหสถานในเวลา 21:00 น. ถึง 04:00 น.เว้นแต่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง หรือได้รับอนุญาตเป็นรายกรณี
- ควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงานก่อสร้าง ยังคงเป็นไปตามข้อกำหนดของ ศบค. ที่อยู่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้
ที่สำคัญในวันพรุ่งนี้ (10 ก.ค.) ให้มีการตั้งด่านสกัดการเดินทางข้ามจังหวัดอย่างเข้มงวดตั้งแต่เวลา 06.00 น.เป็นต้นไป หากพบผู้ฝ่าฝืนให้บังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อทันที